วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555

วัฒนธรรมชาวพุทธ


พิธีวิสาขบูชา
                 ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ตรงกับวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
     ประชาชนจึงพากันทำบุญตักบาตร   ฟังพระธรรมเทศนาตอนเช้าครั้นตอนย่ำค่ำ  ต่างพากันนำดอกไม้  ธูป
     เทียน เครื่องสักการะไปพร้อมกันที่วัด  โดยยืนเบื้องหน้าพระพุทธปฏิมา  กล่าวคำบูชา  และเดินเวียนเทียน
     ทำวัตร สวดมนต์  และฟังพระธรรมเทศนาต่อไปจึงเสร็จพิธี
พิธีเข้าพรรษา  ออกพรรษา
                   ปฐมเหตุที่จะมีประเพณีเข้าพรรษาในพุทธศาสนานั้น  ครั้งหนึ่งพระพุทธองค์ประทับ  ณ กรุงราชคฤห์
     ในฤดูฝน ภิกษุพวกฉัพพัคคีย์ (๖ รูป) เทียวสัญจรไปมา ย่ำเหยียบข้าวกล้าในนาของชาวเมืองให้เสียหาย เพราะ
     ไม่รู้จักกาลเทศะ ประชาชนพากันติเตียน   พระพุทธองค์จึงทรงบัญญัติเป็นธรรมเนียมให้ภิกษุอยู่จำพรรษา ๓
     เดือน นับแต่แรม ๓ ค่ำ เดือน ๘ ถึงกลางเดือน ๑๑ ห้ามมิให้ไปพักค้างคืน ณ ที่อื่น
วันเข้าพรรษา
                    ถือกันว่าเป็นวันพิเศษในพุทธศาสนา  พุทธศาสนิกชนขมักเขม้นในการบุญกุศลยิ่งกว่าธรรมดา
      บางคนรักษาศีลอุโบสถถึง ๓ เดือน (ไตรมาส) บางคนไปวัดฟังเทศน์ทั้ง ๓ เดือนตั้งใจงดเว้นบาปทั้งปวง
      ส่วนพระภิกษุสงฆ์เมื่อใกล้ถึงวันเข้าพรรษา ก็ปัดกวาดเสนาสนะ ตั้งใจบำเพ็ญสมณธรรมยิ่ง ๆ ขึ้น ในวัน
      เข้าพรรษาจะประชุมกันในพระอุโบสด ไหว้พระ สวดมนต์ ทำพิธีเข้าพรรษา (อธิษฐานพรรษา)แล้วขอขมา
      ต่อกันและกัน ครั้นในวันต่อไปก็เอาดอกไม้ ธูป  เทียน  ไปขอขมาพระเถรานุระต่างวัดซึ่งเป็นที่เคารพนับถือ
วันออกพรรษา
                    พระสงฆ์จะทำปวารณาแทนการทำอุโบสด  คือ  เปิดโอกาสให้ว่ากล่าวตักเตือนกันได้ และเมื่อ
       ออกพรรษาแล้วภิกษุจะไปค้างแรมที่ใด ๆ ก็ได้ตามพุทธานุญาตสำหรับพุทธศาสนิกชนเมื่อวันออกพรรษา
       ต่างพากันไปทำบุญตักบาตร รักษาศีล เจริญภาวนา ฟังเทศน์ตามวัดวาอารามต่างๆ
    
พิธีทอดกฐิน
              คำว่ากฐิน              คือ กรอบไม้สำหรับขึงผ้าให้ตึง เพื่อสะดวกแก่การเย็บปัก ซึ่งเรียกว่า สะดึง
              ผ้ากฐิน                  คือ ผ้าสำเร็จรูปโดยอาศัยไม้สะดึงขึงผ้าแล้วช่วยกันเย็บ เมื่อสำเร็จเป็นรูป
                                                แล้วก็ปลดออกจากสะดึง
              การทอดกฐิน        คือ ทอดผ้าซึ่งเย็บจากไม้สะดึงนั่นเอง (แม้ปัจจุบันไม่ได้ใช้สะดึงแล้วก็ยัง
                                                เรียกเหมือนเดิม จึงเป็นความหมายสำหรับพิธีประจำปีไป)
                                                เขตทอดกฐิน ตามวินัยบัญญัติ คือ ตั้งแต่แรม ๑  ค่ำ เดือน ๑๑ ถึง ๑๕ ค่ำ
                                                เดือน ๑๒ เป็นเวลา ๑ เดือน

พิธีมาฆบูชา

                ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ เป็นวันที่เรียกว่า จาตุรงคสันนิบาต แปลว่า การประชุม
      ที่ประกอบด้วยองค์ ๔ คือ
       ๑.พระอรหันต์ ๑,๒๕๐ รูป มาประชุมกัน
       ๒.ท่านเหล่านั้นอุปสมบทจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งสิ้น (เอหิภิกขุอุปสัมปทา)
       ๓.ท่านเหล่านั้นมาประชุมโดยมิได้นัดหมาย
       ๔.วันนั้นเป็นวันเพ็ญเต็มดวงเสวยมาฆฤกษ์ และวันเพ็ญเดือนมาฆะนี้ เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงปลง
           อายุสังขาร(ตกลงพระทัยเพื่อจะปรินิพพาน) ในพรรษาสุดท้ายของพระพุทธองค์

พิธีจุดมาฆประทีปรอบมหาธรรมการเจดีย
                 พุทธศาสนิกชนนิยมทำบุญตักบาตรไปวัดฟังพระธรรมเทศนา  ส่วนทางวัดก็มีการจัดประทีป  ธูป  เทียน     เป็นเครื่องบูชา  บางวัดก็เทศน์ตลอดรุ่ง  บางวัดก็จุดมาฆประทีปบูชาพระพุทธเจ้าอย่างยิ่งใหญ่  และเมื่อถึงเวลา
    พระภิกษุและสามเณรตลอดทั้งพุทธศาสนิกชนต่างเตรียมดอกไม้  ธูป  เทียนไปประชุมพร้อมกัน ในพระอุโบสด     พุทธศาสนิกชนยืนเบื้องหลังพระสงฆ์สามเณรจุดธูปเทียนประนมมือ กล่าวคำบูชา พระพุทธคุณ  พระธรรมคุณ
    พระสังฆคุณ และกล่าวถึงกาลกำหนดวันมาฆบูชา  ซึ่งพระพุทธองค์ทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ในที่ประชุมสงฆ์ ฯลฯ 
    ต่อจากนั้นก็เดินเวียนเทียนรอบพระสถูปหรือพระเจดีย์ ๓ รอบ เดินด้วยอาการสงบเสงี่ยม จะระลึกถึงพระพุทธคุณ      ธรรมคุณ  สังฆคุณ  ด้วยการสวดบท อิติปิโส   ภควาฯ ก็ได้  จากนั้นพุทธศาสนิกชนก็จะมาประชุมพร้อมกันใน
    พระอุโบสด หรือศาลาฟังธรรม  ทำวัตรสวดมนต์  นั่งสมาธิ  ฟังพระธรรมเทศนาต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น