คมฉาน ตะวันฉาย...เรื่อง/ภาพ kokkram@hotmail.com เสียงกร้องแกร๊งของหมากกะแหล่ง ที่ห้อยติดบั้นเอว ส่งเสียงดังยามเมื่อคนที่ถูกผูกพ่วงเดินไปมา และดังระงมเมื่อหมากกะแหล่งหลายสิบหลายร้อยลูกที่ดังประสานกันทั่วงาน ผู้คนขวั่กไขว่ ทั้งนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างถิ่น ทั้งคนในพื้นที่ที่ร่วมแรงร่วมใจกันแต่งกายเป็นผีตาโขน เพื่อเข้าร่วมในงานบุญใหญ่ครั้งนี้ บรรยายกาศอย่างนี้ในหนึ่งปีถึงจะมีสักครั้ง สำหรับอำเภอเล็กๆ ที่อยู่ ท่ามกลางหุบเขาติดชายแดนเฉกเช่น อำเภอด่านซ้ายของจังหวัดเลย ![]() หากแต่ที่น่าสนใจกลับเป็นการละเล่นผีตาโขนอันอิงมากับศาสนาและความเชื่อ โดยเชื่อว่าผีตาโขนเหล่านี้คืออนารยะชนที่เลื่อมใสในพระเวสสันดรและพระนางมัทรีเมื่อครั้งถูกขับออกไปอยู่ป่า บำเพ็ญเพียรจนบรรดาผีเหล่านี้เกิดศรัทธาให้ความเคารพนับถือ เมื่อพระเจ้ากรุงสัญชัยและพระนางผุสดี ไปเชิญให้พระเวสสันดรและพระนางมัทรีเสด็จกลับเข้าเมืองบรรดา ผี เหล่านี้ จึงตามเสด็จเข้ามาส่ง การเล่นผีตาโขนจึงมักที่จะจัดงานนี้ขึ้นในงานบุญพระเวสหรืองานฮีตเดือนสี่ ซึ่งถือกันว่าเป็นงานบุญใหญ่ หรือบางครั้งก็จะมีในช่วงงานบุญบั้งไฟบ้าง ซึ่งอาจจะเรียกชื่อต่างกันออกไปบ้าง แต่ล้วนแล้วมีที่มาที่ไปไม่ต่างกันนัก ![]() ![]() ![]() ![]() ![]()
จุดหลักของงานแห่ผีตาโขนก็คือขบวนแห่ ที่ประกอบไปด้วย ผีตาโขนใหญ่ ที่คล้ายๆกับการเล่นหัวโตในขบวนแห่นาคของภาคกลาง โดยทำจากโครงไม้ไผ่ แล้วตกแต่งหน้าตาคล้ายคน ส่วน ผีน้อย เป็นคนสวมชุดผีตาโขนที่จุดเด่นหลักคือหัวผี ที่มาจากส่วนประกอบ 2 ส่วนคือส่วนหัวที่ทำมาจากซึ้งนึ่งข้าวเหนียว ที่พับหักก้นขึ้นไปจนคล้ายหมวก นำมาต่อกับส่วนที่เป็นหน้าซึ่งทำจากวัสดุหลายอย่าง เช่นกาบใบหมาก กาบปลีมะพร้าวบ้าง ส่วนจมูกที่งองุ้มทำจากไม้เนื้ออ่อน แล้ววาดลวดลายให้โดดเด่นสะดุดตา ด้วยสีที่ฉูดฉาด ส่วนเครื่องแต่งกายนั้นมักเย็บด้วยผ้าสีฉูดฉาด นำเศษผ้ามาเย็บติดกัน เป็นริ้วเป็นพู่ ให้โดดเด่นสะดุดตา แล้วยังถืออาวุธที่ทำจากไม้ อาจจะเป็นมีด ขวานแล้วผูกหมากกะแหล่งใส่เอว เพียงแค่นี้ก็ครบองค์ประกอบของการเป็นผีตาโขนที่จะเข้าร่วมในพิธีได้แล้ว เดิมนั้นเมื่อพ้นช่วงงานไปหน้ากากผีตาโขนจะถูกนำไปทิ้งด้วยเชื่อกันว่าเป็นสิ่งไม่ดี แต่ในปัจจุบันความเชื่อนี้กลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() จุดสำคัญของงานแห่ผีตาโขนสำหรับนักท่องเที่ยวมีเพียงเท่านี้(แต่สำหรับคนด่านซ้าย จะมีเทศน์มหาชาติอันถือเป็นงานบุญใหญ่ไปจนถึงวันรุ่งขึ้นอีกวัน) สิ้นสุดไม่เกินบ่ายโมงในทุกๆ ปี แต่สำหรับผู้ที่เคยไปร่วมงานได้ไปสัมผัสถึงบรรยากาศของงานจะเห็นว่า ทั้งอำเภอด่านซ้าย คึกคักและมีชีวิตชีวาที่สุด ผู้คนเดินกันขวั่กไขว่ทั้งตัวตลาด โดยเฉพาะถนนที่ขบวนแห่จะผ่าน ความตื่นตาตื่นใจของบรรดาผีตาโขนที่วันนี้มีหน้ากากผีตาโขนสีสันสดใสเป็นเครื่องประดับ และดูสะดุดตา เป็นที่จ้องจับของบรรดาช่างภาพและนักท่องเที่ยว เพียงเท่านี้ ผีตาโขนตัวน้อยๆ ก็ประสบความสำเร็จแล้ว ความสำเร็จที่เป็นที่สนใจของทุกๆ คน ภายใต้หน้ากากผีตาโขน แต่สำหรับอำเภอด่านซ้าย ความสำเร็จนานัปที่ตามมานั้นมหาศาล อำเภอด่านซ้ายเป็นอำเภอเล็กๆ ท่ามกลางหุบเขา ติดชายแดนลาว โดยมีแม่น้ำเล็กๆ กั้น นอกจากพระธาตุศรีสองรัก อันเป็นพระธาตุที่ศักดิ์สิทธิ์ของคนด่านซ้ายแล้วก็แทบจะไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป แต่สำหรับวันที่มีงานแห่ผีตาโขน ถนนแทบทุกสายที่เดินทางสู่ด่านซ้ายได้ จะคราคร่ำไปด้วยรถยนต์ที่นำพานักเดินทางมุ่งหน้ามายังอำเภอแห่งนี้ ถนนหน้าอำเภอที่จะเป็นถนนที่ขบวนผีตาโขนผ่านจะหนาตาไปด้วยนักท่องเที่ยวตั้งแต่ตีห้า ริมถนนแทบทุกสายในตัวอำเภอจะมีรถยนต์จอดกันแน่น และเมื่อขบวนแห่ถึงวัดโพนชัย เมื่อนั้นก็จะเกิดการจราจรที่ติดขัด เมื่อรถทุกคันล้วนแย่งกันบ่ายหน้าออกจากอำเภอด่านซ้าย สะท้อนให้เห็นภาพที่ชัดขึ้นว่า งานนี้มีคนมาร่วมงานมากมายเพียงใด ![]() ![]() ![]() ![]() หลังจากที่ขบวนแห่ถึงวัดโพนชัย ก็จะเหลือเพียงชาวด่านซ้ายที่ร่วมในงานบุญที่วัด ถนนที่ก่อนหน้านั้นคราคร่ำไปด้วยบรรดาผีตาโขนและนักท่องเที่ยวที่เดินไปมา เสียงจ้อกแจ้กจอแจของงานแห่อันยิ่งใหญ่แทบไม่เหลือร่องรอยไว้ให้เห็นหลังจากนั้น ถนนในอำเภอด่านซ้ายก็จะกลับคืนสู่ความเงียบเหงาตามปกติ กลับสู่บรรยากาศของอำเภอเล็กๆ ติดชายแดนอีกครั้งหนึ่ง ในสายตาของผมกลับมองว่า อำเภอด่านซ้ายประสบความสำเร็จในแง่การประชาสัมพันธ์แต่ยังขาดกิจกรรมต่อเนื่องที่จะตรึงคนให้อยู่ในอำเภอด่านซ้ายต่อ เพื่อให้นักท่องเที่ยวจับจ่ายใช้สอยในอำเภอ เพราะหลังจากขบวนแห่เสร็จสิ้น ก็เหมือนผึ้งแตกรัง แทบไม่เหลือนักท่องเที่ยวในอำเภอ ช่วงเวลา 6-7 ชั่วโมง ที่นักท่องเที่ยวเดินทางมายังด่านซ้ายจึงเป็นช่วงเวลานาทีทองที่สินค้าและบริการต่างๆได้รับการอุดหนุนเป็นอย่างดี นับตั้งแต่ร้านอาหารต่างๆที่จะแน่นมากในช่วงที่ขบวนแห่เสร็จสิ้นและตรงกับมื้อเที่ยงพอดี โรงแรมที่พักที่จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาพักหนาตาในคืนก่อนวันแห่ และก็จะว่างเปล่าไปอีกนาน ร้านขายของที่ระลึกต่างๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับผีตาโขนจะขายดีเป็นพิเศษ แม้กระทั่งหน้ากากผีที่บรรดาผีตาโขนตัวน้อยๆ บรรจงวาดบรรจงทำ อาจจะกลายเป็นของที่ระลึกให้นักท่องเที่ยวไปก็ได้ เช่นนี้แล้วคงไม่มีใครเอาหน้ากากไปทิ้งน้ำหลังเสร็จสิ้นขบวนแห่อีกแล้ว แต่อานิสงฆ์กลับไปตกกับแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้เคียงกับด่านซ้าย ที่นักท่องเที่ยวล้วนมีจุดหมายปลายทางที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นภูเรือ เชียงคาน เขาค้อ ภูหินร่องกล้า น้ำหนาว ก่อนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาในเย็นวันอาทิตย์ ![]() เสียดายที่อำเภอด่านซ้ายทำการประชาสัมพันธ์ได้ดีแล้ว ทั้งนักท่องเที่ยว สื่อสารมวลชนหลากหลายสำนัก รายการทีวี ล้วนมุ่งหน้าสู่ด่านซ้ายเพื่อชมขบวนแห่ผีตาโขน แต่เสียดายที่ไม่ได้ฉวยโอกาสนี้ไว้ ในฐานะที่ผมท่องเที่ยวเป็นอาชีพอยู่แล้ว เลยขออุปโลกตัวเองเป็นกูรูอยากจะแนะนำอำเภอด่านซ้ายดังนี้.. -ควรปรับวันงานที่เดิมจะจัดเสาร์-อาทิตย์ โดยมีขบวนแห่ในวันสาร์(อันที่จริงงานจะเป็น ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ อย่างปี 2552 นี้จัด 26-28 มิถุนายน แต่วันที่ 26 จะเป็นวันโฮมคือคล้ายๆวันเตรียมงานหรือวันสุกดิบ วันแห่จะเป็นวันเสาร์ที่ 27 วันที่ 28 จะมีแต่การเทศน์ที่วัด) นักท่องเที่ยวที่ไปจากกรุงเทพ พอเลิกงานก็จะเดินทางกลางคืนวันศุกร์ไปถึงด่านซ้ายค่อนรุ่ง ดูขบวนแห่ตอนเช้า พอบ่ายก็เดินทางไปและพักที่อื่น วันอาทิตย์บ่ายๆ จึงเดินทางกลับ ซึ่งแบบนี้แทนที่ร้านค้า ร้านอาหาร ที่พักในด่านซ้ายจะได้เงินจากนักท่องเที่ยวบ้าง กลับไม่ได้อะไรเลย คนที่เขามาเพื่อจะมาดูขบวนแห่ผีตาโขนเป็นหลัก ส่วนที่ท่องเที่ยวอื่นคือผลพลอยได้ จึงควรปรับขบวนแห่ผีตาโขนมาเป็นวันอาทิตย์น่าจะดีกว่า เพราะนักท่องเที่ยวเอง แทนที่จะเดินทางไปด่านซ้ายตอนกลางคืนวันศุกร์ เพื่อให้ทันดูขบวนแห่เช้าวันเสาร์ ซึ่งแบบนี้จะเหนื่อยคนเดินทาง แต่ถ้าเขาเดินทางเช้าวันเสาร์ จะไปถึงด่านซ้ายบ่ายๆ เพื่อที่จะดูขบวนแห่เช้า นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องพักที่ด่านซ้าย เพื่อที่เช้าๆจะได้ไม่ต้องเดินทางไกลเพื่อมาให้ทันขบวนแห่ เมื่อนักท่องเที่ยวมาพักที่ด่านซ้าย ทางอำเภอก็สามารถจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ต่างๆได้ หรือจะจัดเวที มีงานเลี้ยงอาหารเย็นแบบพื้นเมือง โชว์วัฒนธรรมท้องถิ่นก็ได้ หรือตอนกลางคืนจะปิดถนนหน้าอำเภอ จัดเป็นถนนสายวัฒนธรรม ให้นักท่องเที่ยวเดินชทมวัฒนธรรมอุดหนุนสินค้าพื้นเมืองอะไรก็ได้ (ทุกวันนี้จัดซุ้มประชาสัมพันธ์ เช้าวันที่มีขบวนแห่ นักท่องเที่ยวเขาก็ไปสนใจขบวนแห่หมด ซุ้มประชาสัมพันธ์เลยไม่ค่อยมีคนสนใจ ยิ่งพอขบวนแห่เลิก นักท่องเที่ยวเผ่นออกจากด่านซ้าย ซุ้มประชาสัมพันธ์ยิ่งไม่มีคนดู) -เมื่อมีนักท่องเที่ยวมาพักเพื่อที่จะรอชมขบวนแห่ตอนเช้า อาจจะจัดให้มีที่พักแบบโฮมสเตย์ ให้นักท่องเที่ยวพักบ้านชาวบ้านด้วย ในระหว่างนี้ แต่ละบ้านก็จะทำหน้ากากผีตาโขน นักท่องเที่ยวที่มาพัก ก็จะได้ร่วมทำหน้ากาก หรือจะเอาหน้ากากเข้าร่วมในขบวนแห่ก็ได้ อีกทั้งหน้ากากที่เขาทำเขาจะเอากลับเป็นที่ระลึกก็ได้ แบบนี้จะเป็นการท่องเที่ยวที่ให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมในกิจกรรมท่องเที่ยวได้ นักท่องเที่ยวก็จะเกิดความประทับใจและอยากมาร่วมงานอีก (ในขณะที่ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจะแค่มาเห็นขบวนแห่ ถ่ายรูป แล้วก็กลับ แล้วถ้าลองทำการสำรวจนักท่องเที่ยวที่เคยไปงานที่มีขบวนแห่ทั้งหลายเช่น แห่เทียนเข้าพรรษาที่อุบล แห่บั้งไฟที่ยโสธร ฯลฯ นักท่องเที่ยวมักจะไม่ค่อยไปซ้ำ เพราะรูปแบบจะเหมือนกันทุกปี แต่ถ้าให้เขาร่วมในกิจกรรม โดยเฉพาะชาวต่างชาติจะชื่นชอบการมีกิจกรรมในการท่องเที่ยวมาก) -นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหรือที่ไม่มีรถส่วนตัวมา ให้จัดเป็นทริพเล็กๆใน 1 วันให้เขา โดยอาจจะขายบัตรทัวร์วัฒนธรรมหรือทัวร์ธรรมชาติในบริเวณต่างๆที่อยู่ใกล้เคียงกับด่านซ้ายก็ได้ แล้วพาเขากลับมาพักในด่านซ้าย เพื่อให้มาร่วมงานตอนกลางคืนและตรึงให้เขารอดูขบวนแห่ตอนเช้า โดยอาจจะจัดการเรื่องการเดินทาง การท่องเที่ยว ที่พัก อาหารให้เขาจนจบรายการก็ได้ อย่าลืมว่าหลักของการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวคือ ให้นักท่องเที่ยวอยู่กับเราให้นานที่สุด เขาก็จะจับจ่ายมากที่สุด คนมาเที่ยวบ้านเราแล้วไม่ได้อะไรจากเขาสักอย่าง แบบนี้เสียดายโอกาส ระวัง...ประเพณีที่ผิดเพี้ยน ผมไปดูงานผีตาโขนมา 3 ครั้ง เห็นสิ่งที่ขัดตาหลายอย่างเช่น ขบวนแห่ที่ผีตาโขนบางตน โดยเฉพาะผู้ใหญ่ มักแสดงอาการส่อไปทางลามก เช่น การถืออาวุธที่มักทำเป็นปลัดขิกอันใหญ่ พอเจอสาวๆ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำท่าไปชักเข้าชักออกใส่เขาแบบนี้ดูออกจะไม่งาม เพราะขบวนผีตาโขนจัดมาในงานบุญ เมื่อเป็นงานบุญก็ควรแสดงตนให้มันสมเป็นงานบุญ จะได้เป็นที่กล่าวขานในทางที่ดีของคนต่างถิ่น อย่าทำให้วัฒนธรรมเพี้ยนไปด้วยการกระทำที่เราอ้างงานบุญมาบังหน้าแล้วแสดงอาการไม่เหมาะสมออกมา อีกทั้งบรรดาผีผู้ใหญ่ที่มักต้องเมาสุราจึงจะออกมาร่วมขบวน แห่ขบวนไป กระดกขวดเหล้าไป ดูก็ไม่งามนัก สมควรที่ทางอำเภอหรือผู้ที่เกี่ยวข้องควรจะไปปรับปรุง หนึ่งปีมีงานนี้งานเดียวที่คนเขามาเที่ยวด่านซ้าย ลองดูสิว่าจะรักษาไว้ได้ไหม แต่สำหรับผีเด็กๆ นั้นน่ารักมาก สังเกตดูเด็กๆ นักเรียนในด่านซ้านจะแต่งเป็นผีตาโขนเด็กๆ กัน ซึ่งนักท่องเที่ยวและช่างภาพก็ชอบกันเสียด้วย
..
..
เที่ยวที่ไหนใกล้ด่านซ้าย
ในการจัดงานที่ผ่านๆ มา ขบวนแห่จะเสร็จในเที่ยงวันเสาร์ คนที่ไปเที่ยวในวันหยุดจะมีเวลาว่าง 1 วันครึ่ง จึงอยากแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวต่อเนื่องจากด่านซ้ายคือ....![]() จากด่านซ้าย มุ่งหน้าไปทางนาแห้ว ถึงอำเภอนาแห้วแวะเที่ยวธารสวรรค์ (อยู่หลังโรงเรียนนาแห้ววิทยา) แล้วมุ่งหน้าอุทยานฯนาแห้ว เที่ยวน้ำตกคลิ้ง น้ำตกช้างตก น้ำตกวังตาด (น้ำตกทั้ง 3 แห่งอยู่ริมถนน เดินไม่มาก) ไปพักแรมที่อุทยานฯนาแห้ว (มีร้านอาหาร ที่กางเต็นท์ บ้านพัก ไว้บริการ ) เช้าวันอาทิตย์ เที่ยววนไปทางเนิน 1408 ,1200 ภูสวนทราย เพื่อชมทิวทัศน์ไทย-ลาว แล้วแวะน้ำตกตาดเหือง ไหว้พระธาตุดินแทน เข้านาแห้วระหว่างทางกลับด่านซ้าย แวะเที่ยววัดโพธิ์ชัย มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม รวมทั้งจิตรกรรมฝาผนังที่น่าแวะเข้าไปชมมาก กลับเข้าด่านซ้าย แวะไหว้พระธาตุศรีสองรัก แล้วเข้าหล่มสัก เดินทางเข้ากรุงเทพ ทางลาดยางตลอดสาย เดินทางสะดวก ![]() จากด่านซ้าย มุ่งหน้าทางภูเรือ เลี้ยวเข้าน้ำตกปลาบ่า แล้วไปน้ำตกสองคอน (น้ำตกปลาบ่าอยู่ใกล้ลานจอดรถ แต่น้ำตกสองคอนจะต้องเดินราว 500 ม. น้ำตกทั้งสองแห่งสวยงาม มีน้ำมาก) แล้วไปพักแรมที่เกษตรที่สูงภูเรือ ที่มีไม้ดอกไม้ประดับ ตกแต่งพื้นที่สวยงาม มีลานกางเต็นท์ บ้านพัก ร้านอาหาร ไว้บริการ เช้าในอาทิตย์กลับเข้าภูเรือ เที่ยวอุทยานฯภูเรือ ช่วงนี้ดอกเปราะภูกำลังบาน แล้วจึงกลับกรุงเทพ (หรือจะเปลี่ยนจากอุทยานฯภูเรือ เป็นไปชมเปราะภูบานบนภูหลวงทางหน่วยฯ โคกนกกระบาก็ได้ แต่ภูหลวงรถเก่งจะขึ้นลำบาก) ![]() เส้นทางสายนี้ออกจากด่านซ้าย ไปหล่มสัก แล้วไปหล่มเก่า เลี้ยวขึ้นภูหินร่องกล้าทางหล่มเก่า ไปพักแรมที่ภูทับเบิก ชมทะเลหมอกยามเช้าบนยอดภูทับเบิก (มีลานกางเต็นท์ ที่พัก ร้านอาหารบริการ หรือถ้ามีเวลามากกว่านี้จะไปเที่ยวภูหินร่องกล้าแล้วพักแรมที่ภูหินร่องกล้าเพิ่มอีกคืนก็ได้ ช่วงนี้ดอกไม้บนภูหินร่องกล้าหลายชนิดกำลังบานสะพรั่ง แต่ไม่แนะนำเส้นทางนี้สำหรับรถเก๋งหรือผู้ที่ไม่ชำนาญทาง เพราะเส้นทางขึ้นเขาชัน คดโค้งและสภาพทางไม่ดี ![]() จากด่านซ้าย แวะเที่ยวภูเรือ-ภูหลวง แล้วหาที่พักในภูเรือหรือจะเข้าไปพักในเมืองเลยก็ได้ เช้าวันอาทิตย์ ไป อ.หนองหิน เข้าไปเที่ยวสวนหินผางามหรือกุ้ยหลินเมืองเลย แล้วมาแวะเที่ยวน้ำตกตาดฮ้องของ อช.ภูกระดึง ถ้ายังมีเวลาจะแวะเที่ยวน้ำตกพลาญทอง ของอุทยานฯภูผาม่านก็ได้(ใช้ตั๋วอันเดียวกับที่เข้าไปเที่ยวน้ำตกตาดฮ้อง) ช่วงนี้น้ำตกทั้งสองแห่งกำลังสวย แล้วเข้าชุมแพ เดินทางกลับ ** ไม่แนะนำให้ไปเที่ยวแก่งคุดคู้ช่วงนี้ เพราะน้ำมาก ท่วมแก่งหมด ไปก็เห็นแต่แม่น้ำโขง แต่ถ้าตั้งใจไป ก็ไม่ว่ากันครับ ** สอบถามวัน/เวลา การจัดงานผีตาโขนได้ที่ ที่ว่าการอำเภอด่านซ้าย โทร. 042-891-266..
................................................................................
*** ไปให้รู้จัก แล้วจะรักเมืองไทย ***
|
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก คมฉาน_ตะวันฉาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น