๑. วัฒนธรรมคืออะไร
Donald Klopf : Culture is “that part of the environment made by
humans” วัฒนธรรมคือส่วนของสภาพแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้น วัฒนธรรมจึงรวมทุกสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ทั้งทางด้านวัตถุ ค่านิยม ขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ ที่ผูกพันกลุ่มชนต่าง ๆเข้าด้วยกัน
สรุปได้ว่า วัฒนธรรม (Culture) เป็นระบบคุณค่า
และบรรทัดฐานร่วมกันของกลุ่มบุคคลที่จะนำไปสู่รูปแบบของการดำรงชีวิต
ซึ่งมนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้น กำหนดขึ้น เป็นรูปแบบในการดำเนินชีวิต
เมื่อมนุษย์ได้สร้างวัฒนธรรมขึ้นมาแล้วจึงสอนให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้
หรือนำไปปฏิบัติ ดังนั้น วัฒนธรรมจึงต้องมีการเรียนรู้และมีการถ่ายทอด
๒. คุณลักษณะของวัฒนธรรม Nature of Culture
• เป็นผลผลิตของระบบความคิดของมนุษย์ (Cognitive Systems)
• มีการเรียนรู้ (Learned) หรือได้มาเพราะการเรียนรู้
• เป็นสิ่งที่เกิดร่วมกัน (Shared) หรือเป็นสมบัติส่วนรวม
• มีการถ่ายทอดให้คนรุ่นหลัง (transgeneration)
• มีลักษณะเป็นรูปแบบ (pattern)
• มีการเปลี่ยนแปลง (adaptive
๓. การสื่อสารระหว่างชนต่างวัฒนธรรม (Intercultural
Communication) วัฒนธรรม
ทำให้คนเรามีความรู้สึกร่วมกัน ช่วยตอบคำถามเก่าแก่หลายคำถามเช่น เราเป็นใคร เราอยู่ที่ไหน เราควรจะดำเนินชีวิตของเราอย่างไร
๔. ลักษณะของวัฒนธรรม
๔.๑
วัฒนธรรมเป็นสิ่งที่เราเรียนรู้ เพราะคนแต่ละวัฒนธรรมจึงมีการคิด
และมีพฤติกรรมแตกต่างกันออกไป (คนไทย คนจีน คนอเมริกันคิดและแสดงออกไม่เหมือนกัน
๔.๒
วัฒนธรรมเป็นของทุกคนไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง
- ทำให้เรามีความเหมือนกัน
-
เป็นพวกเดียวกัน คิดอย่างเดียวกัน
-
ปฏิบัติต่อคนต่างวัฒนธรรม
๔.๓
วัฒนธรรมเกี่ยวพันกับสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตเราหลายอย่าง
-
ภาษา ศาสนา โลกทัศน์ การศึกษา องค์กรทางสังคมเทคโนโลยี กฎหมาย ฯลฯ
ล้วนเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมทั้งสิ้น แม้ว่าคนต่างวัฒนธรรมกันจะทำหลายอย่างเหมือนกัน
แต่วิธีการกระทำก็จะแตกต่างกันไป เช่นคนทุกชาติทุกภาษา ต้องกินอาหาร
แต่อาหารที่ปรุงก็แตกต่างกัน มารยาทในการรับประทานอาหารก็แตกต่างกัน
การกำหนดว่าอะไรกินได้ อะไรกินไม่ได้ ก็แตกต่างกัน
๔.๔ วัฒนธรรมบางครั้งเหลื่อมกันหรือขัดแย้งกันได้ เช่น ผู้หญิงที่เชื่อเรื่อง สิทธิเท่าเทียมกันระหว่างชาย-หญิงแต่อยู่ในครอบครัวหัวโบราณที่เชื่อว่าผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง
จะมีความรู้สึกขัดแย้งในใจมาก
๕. องค์ประกอบของวัฒนธรรมในสังคม ความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรมมีผลต่อการแสดงออกทางด้านพฤติกรรมในสังคมที่แตกต่างกันออกไป
ซึ่งสรุปเป็นองค์ประกอบ ดังนี้…
๕.๑ ความรักสวยรักงามและรสนิยม (Aesthetics) : ความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรมจะมีผลทำให้การมองเห็นถึงความสวยงามและรสนิยมแตกต่างกันไป
๕.๒ ทัศนคติและความเชื่อ (Attitudes
and Beliefs) : การอบรมสั่งสอนรวมถึงความเชื่อของคนในสังคมหนึ่งจะทำให้เกิดพฤติกรรมการแสดงออกที่แตกต่างไปจากอีกสังคมหนึ่ง
๕.๓. ศาสนา (Religion) : เป็นพื้นฐานที่สำคัญต่อวัฒนธรรมในแต่ละสังคมอันจะมีผลต่อทัศนคติและพฤติกรรมของคนในสังคมนั้นๆ
๖. การแพร่กระจายของวัฒนธรรม
๑. ปัจจัยทางภูมิศาสตร์
๒. ปัจจัยระยะทาง
๓. ปัจจัยเทคโนโลยีการสื่อสารคมนาคม
๔. ปัจจัยทางสังคมและวัฒนธรรม
๕. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ
การแพร่กระจายของวัฒนธรรมเกี่ยวข้องกับเขตวัฒนธรรมอย่างมาก
๖. กลุ่มของวัฒนธรรม
๑.๑ วัฒนธรรมดั้งเดิม เช่น วัฒนธรรมคนป่า
วัฒนธรรมเขตเหนือและเขตหนาวและเขตขั้วโลกเหนือ
๑.๒ วัฒนธรรมปฐมภูมิ เช่น ชนเผ่าเร่ร่อนเลี้ยงสัตว์ วัฒนธรรมชาวสวน
๑.๓ วัฒนธรรมทุติยภูมิ แบ่งพฤติกรรมมนุษย์ออกเป็น ๓ ระดับ คือ
๑. วัฒนธรรมเพาะปลูกขั้นสูง
๒. วัฒนธรรมชาวสวนขั้นสูง
๓. วัฒนธรรมพ่อบ้านเป็นใหญ่
๘. ทำไมเราต้องติดต่อสื่อสารระหว่างชนต่างวัฒนธรรม
๑. โลกแคบลง เราอยู่ใน global
village มีการเดินทางไปต่างประเทศมากขึ้น
มีการทำงานในบรรษัทข้ามชาติมากขึ้น มีปฏิสัมพันธ์กับคนต่างวัฒนธรรมมากขึ้น
๒. เราอยู่ในสังคมที่มีวัฒนธรรมหลากหลาย
๓. การสื่อสารระหว่างชนต่างวัฒนธรรมช่วยให้เราเติบโต
และพัฒนา (ตนเอง) เช่น มีใจกว้างขึ้น มีความสุขในชีวิตมากขึ้น เรียนรู้สิ่งใหม่
ๆ มากขึ้น ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้น
๙. วัฒนธรรมมีอิทธิพลต่อการสื่อสารของคนเราอย่างไร
๑. วัฒนธรรมมีอิทธิพลต่อโลกทัศน์ขอเรา (วิธีคิด
วิธีมองตนเอง และวิธีมองสภาพแวดล้อม)
๒. วัฒนธรรมมีอิทธิพลต่อบทบาทของสมาชิกในสังคม
๓.วัฒนธรรมมีอิทธิพลต่อการกำหนดเป้าหมายในชีวิต
๔. วัฒนธรรมเกี่ยวข้องกับอัตลักษณ์ของเรา (ภาพลักษณ์ของตนเอง)
๑๐. ประโยชน์การเรียนรู้วัฒนธรรมของผู้อื่น/กลุ่มอื่น/ศาสนิกอื่น
• การปรับตัวเพื่อการเข้าใจกัน สามารถลดความขัดแย้ง
สร้างสันติสุขในการอยูร่วมกัน
• นอกจากนั้นการรู้วัฒนธรรม ยังทำให้เรารู้อีกว่า
อะไรที่ควรทำหรืออะไรที่ไม่ควรทำ
• ทำให้เราเข้าใจและรู้ว่าควรปฏิบัติต่อเขาที่ต่างจากเราอย่างไร
• ผู้ที่ศึกษาวัฒนธรรมของผู้อื่น/กลุ่มชนอื่นอย่างลึกซึ้งแล้ว
จะส่งผลทำให้สามารถสะท้อนความเข้าใจต่อกลุ่มชน ของตนเองมากขึ้น
• เมื่อเข้าใจและรู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับวัฒนธรรมของตนเองและผู้อื่นแล้ว
จะเลือกใช้วัฒนธรรมในฐานะ "กำแพง"
ที่ก่อเพื่อปิดกั้นและอยู่เฉพาะกลุ่มชนตนเอง หรือมุ่งที่จะสร้างเป็น
"สะพาน" เพื่อที่จะเชื่อมความสัมพันธ์กับผู้อื่น เพื่อการแลกเปลี่ยน
สังสรรค์ เป็นที่รู้จักและนำสู่การอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น